Planning - Forecast คาดเดาอนาคตกันเถอะ




วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรนะ ในอนาคตจะเป็นยังไงน้าาา
คำถามยอดฮิตสำหรับมนุษย์ปุถุชน คนธรรมดาเช่นเราๆ เกิดเป็นมนุษย์ต้องมีความกังวลในเรื่องต่างๆที่จะมาถึง โดยเฉพาะอนาคตที่เป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถรู้ได้จริงๆ

เชื่อเถอะว่าถ้าเกิดมนุษย์มีสิทธิ์เลือกพลังพิเศษได้ 1 อย่าง จะต้องมีคนที่เลือกพลังมองเห็นอนาคตเยอะแน่ๆ ฟันธง

ในโลกของธุรกิจก็เหมือนกัน ต้องมีการคาดการณ์/วางแผนสำหรับอนาคต โดยเฉพาะการคาดการณ์การขาย หรือที่เรียกว่า Sales forecast
ทำไมต้องทำ Sales forecast นะหรอ ทำไมไม่รอแค่ Order ที่มาจากลูกค้าอย่างเดียวหละ
คำตอบง่ายๆ ก็ตามนี้นะครับ

  1. การขายของต้องมีสินค้าก่อน ซึ่งการได้มาของสินค้าต้องใช้เวลาไม่ว่าจะเป็นจากการผลิตเองหรือซื้อเข้ามา ยิ่งถ้าเป็นของที่ต้องซื้อมาจากต่างประเทศยิ่งต้องใช้เวลาในการขนส่งนานยิ่งขึ้น  ดังนั้นจึงต้องมีการประมาณการณ์ล่วงหน้าเพื่อทำการวางแผนซื้อ/ผลิตสินค้า มาเก็บไว้เพื่อขายนั่นเอง
  2. กดดัน sales ทีม นี่พูดจริงๆนะ Sales forecast ส่วนมากจะคิดมาจาก Sales team มันก็เหมื่อน Commitment กลายๆ ให้กับบริษัทว่า เดือนหน้า 3 เดือนหน้า หรือตลอดปี เราจะมีการขายอะไรจำนวนเท่าไหร่ นั่นแหละ 
      ถ้า Sales ทำไม่ถึงเป้าที่ forecast ไว้ คงนึกภาพออกนะครับว่าจะเจออะไร

Sales forecast ส่วนมากจะใช้สถิติเก่าและนโยบายของบริษัทมาคิดหาตัวเลขที่ประมาณการณ์ เพื่อดูว่าจะ Forecast จำนวนเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม
บางที่ก็จะดูจากยอดขายเก่าๆ ในแต่ละเดือนหรือแต่ละฤดู เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเพื่อเอามาประมาณการณ์ให้ได้ตัวเลขที่ใกล้เคียงมากยิ่งขึ้น

สำหรับ ERP ตัวไหนที่มีระบบ Planning หรือที่หลายคนคุ้นกับคำว่า MRP (Material Require Planning) ก็มักจะมี function ที่ให้บันทึกข้อมูล forecast อยู่ด้วย ซึ่งข้อมูล forecast ก็จะเอามาทำการวางแผนการซื้อ/ผลิต โดยการ Run MRP นั่นเอง

การ Run MRP ระบบจะช่วยท่านวางแผนว่าท่าจะต้องซื้อ/ผลิตสินค้าอะไร จำนวนเท่าไหร่ และเมื่อไหร่ โดยเอายอด Forecast กับ sales order (ขอเรียกว่า Demand) มาหักกับของที่มีอยู่เช่นสินค้าคงคลัง หรือของที่รอรับ (ขอเรียกรวมว่า Supply) เพื่อคำนวณหาของที่ต้องซื้อนั่นเอง

ERP ที่ดีควรจะมี option ให้เลือกว่าจะเอา Demand หรือ Supply ประเภทไหนมาวางแผนบ้าง ซึ่งจะใช้อะไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละประเภทธุรกิจแล้วหละ

เริ่มเห็นแล้วใช่ไหมว่าทำไมต้องมี forecast มันมีปรโยชน์อย่างไร ลองจินตนาการสิว่าถ้า forecast ได้แม่นมากๆ จะส่งผลดีต่อธุรกิจขนาดไหน
ถ้าใครมีตาวิเศษคาดการณ์การขายได้นะ ผมจะรีบจ้างมาเป็นที่ปรึกษาทีมขายเลย

TIP for Microsoft Dynamics AX

ใน AX นั้น มี Function การหักลบยอด Sales forecast กับยอด Sales order ซึ่งเป็น Option ที่เรียกว่า Reduction principle อยู่ ถ้าเลือก Reduction principle = Transaction-Reduction key
การหักยอด Forecast กับ Sales order ขึ้นอยู่กับนโยบายว่าจะยึดถือค่าไหนเป็นหลักในการวางแผน โดยมี option ให้เลือกคือ

  1. ไม่หักยอดเลย (ยอด demand = Sales forecast + Sales order)
  2. หักยอด เช่น Forecast = 100, Sales order = 30 ระบบจะหักเหลือยอด Forecast = 70 ระบบจะวางแผนเพื่อซื้อ/ผลิตให้ Sales order 30 และ Forecast 70  แต่ถ้า Forecast =30 และ Sales order = 100 ระบบจะวางแผนเพื่อซื้อ/ผลิตให้ Sales order 100 เลย (ให้ความสำคัญกับ sales order ก่อน)
อันนี้จะเลือกวิธีไหนก็ขึ้นอยู่กับวิธีคิดของแต่ละบริษัทแล้วนะ

Reduction principle ผูกอยู่กับ Master plan นะครับ ภาพของ Reduction principle นะจ้ะ



 Reduction principle ต้องใช้คู่กับ Reduction key ที่เป็นตัวกำหนด Period ว่าจะหักลบ Forecast กับ Sales order ในช่วงใด
ถ้าหัก Sales forecast กับ Sales order ในแต่ละเดือน ก็ Set Reduction key เป็นแบบช่วงเดือนนะจ้ะ

Setup ได้ที่่ส่วน setup ของ Module Master plan ภาพของ Reduction key นะจ้ะ

 


หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับ พี่น้องที่ปรึกษาทุกท่านนะครับ

Precise estimation can save your Cash